Archive for กันยายน, 2006

อ่านแล้วมีประโยชน์

กันยายน 26, 2006

Recieved : Tuesday, September 12, 2006 7:34 PM
Subject : FW: Fwd: FW: อ่านแล้วมีประโยชน์

>> >เมื่อวานดูข่าวช่อง 3 มีข่าวนึงที่ทำให้ต้องหันมาตระหนักถึงบางอย่างใกล้ตัว

>> 1. เรื่องขวดน้ำพลาสติกที่บรรจุน้ำดื่มที่ขายๆ กันตามห้างสรรพสินค้า
>> เซเว่นอีเลฟเว่น รวมทั้งที่ไปเติมน้ำมันครบ 800 แถมน้ำ 1 ขวด อะไรทำนองนั้น
>> ปัจจุบันเพิ่งมีคนตายเพราะการนำขวดพลาสติกดังกล่าวไปบรรจุน้ำดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า
>> โดยสารพิษชนิดหนึ่ง สามารถละลายออกมาปะปนกับน้ำดื่ม
>> เนื่องจากขวดประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ครั้งเดียว
>> อายุการใช้งานสั้นๆ เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สมควรเสียดาย นำมาบรรจุน้ำดื่มอีก
>> รวมทั้งน้ำที่มากับขวด หากแม้ว่าเปิดกินไม่หมดแล้วเก็บไว้ในรถยนต์
>> ซึ่งรถดังกล่าวอาจจอดที่ๆ ร้อน ๆ ความร้อนก็มีผลกับสารพิษที่มากับขวดได้
>> ดังนั้นเมื่อเปิดดื่มแล้ว
>>
>> ควรดื่มให้หมดภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ โดยเฉพาะหากเก็บขวดนั้นไว้ที่ร้อน ๆ
>> ถ้าเก็บที่อุณหภูมิห้องจะปลอดภัยกว่า >>
>>
>> 2. ม่านพลาสติกที่แขวนในห้องน้ำเพื่อกั้นพื้นที่แห้ง กับเปียก
>> มีข่าวแจ้งมาว่ามีนักจุลชีววิทยา คนนึงในต่างประเทศ เค้าสังเกตว่าที่ม่านพลาสติกมีคราบดำ ๆ
>> ทีแรกเค้าคิดว่าเป็นคราบสบู่
>>
>> เค้าลองขูดแล้วเอาไปส่องกล้อง ปรากฏว่าคราบดำๆ ดังกล่าวเป็นแบตทีเรียชนิดร้ายแรง ที่เติบโตโดยอาศัย การผายลม
>> การเรอ การไอ จาม ของมนุษย์เรานี่แหละ เป็นอาหารอย่างดีของมัน เค้าแนะนำว่า
>> เราควรถอดไปซัก อาทิตย์ละครั้ง หรือ เดือนละ 2 ครั้งก็ได้
>>
>> หรือถ้าไม่มีเวลาก็เดือนละครั้งก็ยังดี นอกจากนี้เค้าเตือนว่า อะไรที่เป็นพลาสติกก็เข้าข่ายเหมียนกัลลลล….ล
>>
>> โดยเจ้าเชื้อโรคเนี่ยมันจะเข้ามาทำอันตรายเราก็ต่อเมื่อ เราป่วย มีบาดแผล
>> คนแก่ คนที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ แล้วต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน >>
>>
>>
>> 3. เรื่องคนนอนดึก
>>
>> เราควรพักผ่อนเข้านอนเวลา 3 ทุ่ม เนื่องจากร่างกายเราต้องการเวลาในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
>> ขับของเสียตามอวัยวะต่างๆ ย่อยอาหารให้หมด
>> ถ้ากินมื้อหนักตอนกลางคืน แถมนอนดึกอีก รับรองว่าอ้วนพุงพุ้ย แน่นอน
>> ไขมันเผาผลาญไม่หมดมันเลยสะสมอ่ะ
>> แต่ถ้านอนดึกเลี่ยงไม่ได้ เพราะขนงานมาทำ หรือติดงานอะไรก็ตาม
>>
>>
>> ควรปฏิบัติดังนี้
>> 3.1 งดเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ เพราะย่อยยาก ลำไส้ต้องทำงานหนัก
>> 3.2 หากเราอยากกินเนื้อสัตว์ ก็ควรช่วยลำไส้ด้วยการเคี้ยวให้ละเอียด ยิ่งเคี้ยวละเอียด ยิ่งดี จะได้แบ่งเบาภาระลำไส้
>> 3.2 ดื่มน้ำขิง ผสม น้ำผึ้งอุ่น ๆ หรือ น้ำอุ่นธรรมดา + น้ำผึ้ง หรือถ้าไม่มีอะไรเลย น้ำอุ่นธรรมดา สัก 1 แก้วก็ได้ เหมียน กัลลล…ล
>>
>> 3.3 เวลานอน ควรทำให้ช่วงท้อง / ฝ่าเท้าอุ่น โดยการห่มผ้า
>> 3.4 ที่จริงมื้อดึก ควรเป็นมื้อเบา ๆ อย่างเช่น ผัก ผลไม้ นม ไข่ เนื้อปลา จะดีกว่า
>> 3.5 ควรเลี่ยงน้ำเย็น น้ำอัดลม เพราะเพิ่มภาระให้ระบบภายในร่างกาย
>> ร่างกายเราต้องความร้อนเพราะช่วยในการย่อยอาหาร หากดื่มแต่น้ำเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมื้ออาหาร
>> จะทำให้ร่างกายเราต้องพยายามปรับอุณหภูมิ ให้อุ่นเหมาะสมก่อน แล้วจึงนำไปใช้
>> การดื่มน้ำอัดลมก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพิ่มกรดให้ร่างกาย แถมมีน้ำตาลที่สะสมตามร่างกายอีก
>> ****ถ้าอยากกินเนื้อสัตว์ ควรกินเวลา 7.00 น – 9.00 น.
>>
>> เนื่องจากกระเพาะเรามีสภาพเป็นกรดสูงมากที่สุด ดังนั้นมื้อเช้าจะจำเป็นมาก ๆ
>> ถ้าอดมื้อเช้าไปนาน ๆ ขั้วกระเพาะเราจะเป็นปุ่มปม และนานเข้า ๆ ก็กลายเป็นมะเร็งในกระเพาะ

>> อย่าลืมดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วนะ น้ำสะอาดจะช่วยล้างของเสีย ออกจากร่างกาย อย่าขี้เกียจลุกไปห้องน้ำเด็ดขาด
>>
>> ห้ามอดหลับอดนอนตั้งแต่ ตีหนึ่ง เด็ดขาด เนื่องจาก ถุงน้ำดีกำลังย่อยไขมัน
>> ถ้าอดนอนเวลานี้บ่อย ๆ จะเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
>> ห้ามกินนมตอนเช้า แทนข้าวเช้า เนื่องจาก ตอนเช้ากระเพาะเป็นกรดสูงมาก
>>
>> นึกสภาพดูหากเราบีบน้ำมะนาวลงในนม จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี กลายเป็นคอลลอยด์ มันไม่ย่อย นะจ๊ะ
>> ถ้าดื่มนมตอนท้องว่างแบบนี้ติดต่อกันเป็นประจำแทนข้าวเช้า
>> ระวังมะเร็งในไขกระดูกนะจ๊ะ แต่ถ้าเป็นช่วงหลังอาหารเช้า หรือ ตอนบ่ายไปแล้ว หรือตอนเย็นดื่มได้ตามปกติจ้า
>> มื้อเย็นอาจเป็นมื้อง่ายๆ อย่างนม กับไข่ก็ไม่ว่ากัน ถั่วต่าง ๆ รวมทั้งธัญพืชสารพัดอย่าง เช่น ลูกเดือย ข้าวฟ่าง ฯลฯ
>>
>> มีประโยชน์ต่อลำไส้ คือ ช่วยกวาดเชื้อโรค + แบตทีเรียชนิดไม่ดี ออกจากลำไส้เรา ควรกิน อาทิตย์ละครั้ง อย่างน้อย
>>
>> พืชผักสีเขียว มีคลอโรฟิว ช่วยทำให้เม็ดเลือดลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี
>> เซลล์แต่ละเซลล์จะแข็งแรงเมื่อมีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง
>>
>> ก่อนเอาผักมากิน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารพิษ อย่าลืมแช่น้ำส้มสายชู 45 นาทีนะจ๊ะ
>>
>> ขอให้ถนอมสุขภาพร่างกายของเราให้ดีกันทุกคนนะจ๊ะ ด้วยความปรารถนาดี
>> ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสร็จจ้า
>> ปล. ข้อมูลทั้งหมดมีที่มาไม่ได้โมเมนะจ๊ะ

เกาะช้าง

กันยายน 26, 2006

อ่านแล้วรู้สึกเป็นห่วง อยากจะเตือนคนที่กำลังจะไปเที่ยวที่เกาะช้างคะ
วันแม่ที่ผ่านมา 12 สิงหาคม 2549 ครอบครัวเรา ญาติและเพื่อนพ่ออีกประมาณ 7 – 8 ครอบครัว
ไปเที่ยวกันที่เกาะช้าง จังหวัดตราด ไปกันประมาณ 40 คน
เริ่มเดินทางตั้งแต่เช้ามืด ถึงที่เกาะช้างประมาณเที่ยงกว่าๆ
พอไปถึงที่พัก ก็ไปจัดของเตรียมพร้อมที่จะลงทะเล
จากที่พักต้องนั่งรถไปประมาณ 5 นาที
ซึ่งพอพวกเราไปถึงทะเลก็เช่าเสื่อกับเก้าอี้นั่งกัน
พวกผู้ใหญ่เค้าก็นั่งตากลมกันไป ส่วนพวกเด็กผู้ชายก็ไปเตะบอล
เด็กผู้หญิงบางคนรวมทั้งเราด้วยก็ลงไปเล่นน้ำทะเลกัน
แต่ก่อนที่จะลงน้ำทะเลก็มีคนเตือนว่า “อย่าไปเล่นน้ำไกลนะ” ซึ่งเราก็ไปยินกันนะ
แรกๆก็ไปเล่นเตะน้ำกันเฉยๆ แล้วก็เริ่มเดินไปลึกกว่าเดิมนิดหน่อย ประมาณเข่า
เริ่มกวักน้ำใส่กัน แต่คลื่นที่นั่นแรงมากเลยอ่ะ
ลงไปแรกๆตกใจมากอ่ะ เพราะว่าไม่คิดว่ามันจะแรงขนาดนั้น …
แรงขนาดว่าทำให้ผู้หญิงตัวใหญ่ๆอย่างเราล้มได้อ่ะ … เหอะๆ คิดดูละกัน
เล่นไปสักพักคลื่นเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แรงขึ้นเรื่อยๆ
มารู้สึกตัวอีกทีน้ำจากระดับเข่าก็มาอยู่ระดับเอวแล้ว
คนที่ไม่ไหวก็เริ่มขึ้นหาดกันไปทีละคนสองคน
เหลืออยู่ 5 คนแล้วแต่ละคนก็เป็นผู้หญิงหมดมี ม.5 คนนึง
ที่เหลืออายุ 20 เท่าเราหมด(ทุกคนว่ายน้ำเป็นหมด)
พวกเราก็เล่นโดดน้ำอีกประมาณ 3 – 5 ครั้ง
มารู้ตัวอีกทีคลื่นก็กลายเป็นมาอยู่ระดับอก
แบบว่าคลื่นทุกคลื่นที่ซัดมาเนี่ยสูงกว่าหัวเราทุกคลื่นอะ
เพราะฉะนั้นต้องกระโดดทุกครั้งที่มันมา
ถ้าไม่โดดก็จะจมอยู่ใต้คลื่น
เพื่อนเราคนที่อยู่ใกล้หาดมากที่สุดก็เริ่มพูดว่า
“เฮ้ย … ไม่ไหวแล้วอ่ะ เราขึ้นก่อนนะ”
เราก็รู้สึกว่ามันชักไม่ดีอยู่เหมือนกันขึ้นด้วยดีกว่า
พอเดินไปสัก 3 ก้าวก็โดนคลื่นลูกใหญ่ซัดออกมา
มารู้ตัวอีกทีก็ยืนไม่ถึงแล้วอ่ะ
แบบว่าตกใจมากแต่ก็ยังไม่คิดอะไร
ก็ลอยตัวสักพักแล้วพยายามว่ายน้ำเข้าฝั่ง
แต่ว่ายเท่าไรก็ถึงอ่ะ เพราะโดนคลื่นยักษ์ซัดออกมาตลอด
คลื่นยักษ์ ยักษ์จริงๆ อ่ะ
โดนแบบติดต่อกันประมาณ 3-5 ครั้ง
แบบว่าแถบไม่ได้หายใจเพราะมาติดกันไม่หยุด
ตอนนั้นที่รู้ก็คือว่ายอย่างเดียว
แล้วหลังจากคลื่นยักษ์ผ่านไปแล้ว
ก็ยังมีคลื่นลูกเล็กมาอย่างต่อเนื่องแต่ลูกเล็กของที่เกาะช้าง
เนี่ย ก็เท่ากับลูกใหญ่ที่พัทยาหรือชะอำอ่ะ
พอเราได้สติอีกทีเราก็พยายามมองหาเพื่อนเรา
ว่ามันยังอยู่กันหรือป่าว เราก็หวังว่ามันจะอยู่ตรงที่ๆ ยืนถึง
เพราะว่าตอนนั้นเราคิดว่าเราอยู่ไกลจากหาดที่สุด
หวังว่าเพื่อนๆ จะไม่โดนน้ำซัดออกมา
แล้วไปตามคนมาช่วยเรา
แต่ไหนได้ … เพื่อนเราทั้ง 4 คนก็โดนแบบเราอ่ะ
ตอนนั้นในใจคิดว่า “แม่..ง โดนหมดทุกคนอย่างงี้ใครจะช่วยกูรว่ะ”
แต่เราได้ยินเพื่อนเราตะโกนว่า
“เฮ้ยๆ … อย่างงี้ไม่ไหวแล้วนะ / ไม่เอาอย่างงี้นะ
เฮ้ย … ทำไงดี” ซึ่งในใจเราก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน
แต่เราเป็นพวกคิดแต่ไม่ชอบพูดออกมา
ใจก็เริ่มแย่ คิดเหมือนกันว่าจะรอดมั๊ย
จะมีคนเห็นเราไหม เพราะเรารู้สึกได้ว่าเรา
มีแต่หัวที่พ้นออกมาทะเลอ่ะ
ตาก็มองหาเรือไปด้วย แต่หันไปอีกทีได้ยินเพื่อน
ตะโกนออกมาว่า “ช่วยด้วย!!!  ใครก็ได้ช่วยด้วย”
ในใจก็อยากจะเข้าไปช่วยนะ
แต่แค่ตัวเราก็จะเอาตัวไม่รอดแล้วอ่ะ
ตอนนั้นเราพยายามงัดทุกอย่างที่เราเรียนว่ายน้ำทั้งหมดมาใช้

ตั้งแต่ฟรีสไตล์ แต่พอเราว่ายแล้วเราก็รู้สึกว่าเหนื่อยอ่ะ
เหนื่อยมากว่ายเท่าไรมันก็ไม่เข้าหาดอ่ะ
จนจะหมดแรงอยู่แล้ว เราเลยเปลี่ยนท่าเป็นท่าลูกหมาตกน้ำ
เพื่อประคองตัวไปก่อนแต่ก็มาคิดได้อีกทีว่า
ว่ายแล้วไม่เห็นจะรู้สึกว่ามันจะขยับเลย
เหมือนกะว่าเราว่ายน้ำอยู่กับที่
เราว่ายน้ำไปอีกสักพักเราก็เริ่มไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
รู้สึกว่าแรงหายไปหมดไม่รู้จะทำยังไง

ก็คิดว่าต้องตายชัวร์ ก็ปล่อยวางทุกอย่างแล้วด้วยแหละ
แบบว่าแรงหมดจริงๆ อ่ะ เลยปล่อยตัวเองให้จมไปกับน้ำ
แต่ก่อนที่จะตัดใจก็ลองเอาขาแตะๆ ดูว่าขาถึงพื้นบ้างป่าว
ซึ่งเท่าที่ลองแตะดูแล้วเนี่ย ไม่มีความรู้สึกว่าขาจะถึงพื้นเลย
รู้สึกว่าหมดกำลังใจอย่างมาก
ในใจตอนนั้นคิดหลายอย่างเลยแหละ คิดว่า
“ตาย …ตาย … ตายอย่างเดียว
ไม่รอดแน่ 0.000001 เลยแหละ
แอบคิดภาพหลอนต่างๆ นานา
ภาพหลายๆอย่างพุดขึ้นมาในหัว ตั้งแต่คนสุดท้ายที่คุยโทรศัพท์ด้วยกันว่าเหมือนการสั่งลาเลย
เพื่อนที่โทรมาแล้วเราไม่ได้รับโทรศัพท์เค้าเพราะว่าเราหลับอยู่ในรถ
เพื่อนสนิทจะว่าอย่างไงถ้าเห็นข่าวเราในหน้าหนังสือพิมพ์
เพื่อนที่ทำงานกลุ่มด้วยกัน ที่เค้าสั่งให้เราหางานให้เค้า
แต่เรายังไม่ได้หาให้เค้าสักที คิดว่าเค้าจะโมโหไหม
เพราะว่าเราอาจจะไม่ได้ทำให้เค้า
แล้วคิดว่าจะมีใครหาให้แทนไหม…

แล้วพ่อแม่พี่น้อง ครอบครัวเราอีกละ
อยู่ดีๆเราก็คิดว่าวันนี้เป็นวันสำคัญนะ
แต่คิดไม่ออกว่าเป็นวันอะไร รู้แต่ว่าต้องไม่ตายอ่ะ
ห้ามตาย”
จากนั้นพอคิดได้อย่างงั้นเราเลยว่ายกลับขึ้นมาใหม่
พยายามว่ายด้วยท่าฟรีสไตล์ แต่ก็เหนื่อยมากๆอยู่ดีอ่ะ
เหนื่อยแล้วก็กลัวด้วย ก็อย่างที่บอกนะ
ว่าเราเป็นพวกไม่ค่อยชอบพูดความในใจออกมาเท่าไร
แต่ว่าครั้งนี้มันไม่ไหวจริงๆ อ่ะ
ไม่ไหวจนต้องร้องออกมาว่า
“ช่วยด้วย ไม่ไหวแล้ว จะตายอยู่แล้วใครก็ได้ช่วยที”

แต่พอมองไปเจอเพื่อนๆ มันก็ยังไหวกันอยู่
เลยมีกำลังใจว่า พวกมันยังว่ายกันไหวเลย
แล้วทำไมเราจะไหวไม่ไหวว่ะ สู้โว้ย
แล้วก็เห็นเพื่อนมันยกไม้ยกมือ
เราก็ทำตามอ่ะกลัวว่าคนอื่นจะมองไม่เห็น

สักพักเราเลยคิดว่าเปลี่ยนเป็นท่ากรรเชียงดีกว่า
ถึงท่ากรรเชียง คลื่นมันต้องซัดโดนหน้า
แต่พอมาคิดอีกทีมันก็ช่วย save พลังเราได้เยอะนะ
เลยลองดูเราก็พยายามว่ายกรรเชียงสุดชีวิต
น้ำก็ซัดเข้าหน้านะแต่ก็ทนเพื่อความอยู่รอด

ว่ายได้สักพักหันไปเห็น “ห่วง”
เพื่อนๆเกาะกันเต็มห่วงเลย
เฮ้ยแล้วทำไมเราไม่ได้เกาะอยู่คนเดียวว่ะ
พี่คนที่เค้ามาช่วยเค้าก็ตะโกนมาว่า
“มานี่ … ว่ายมานี่ เดี๋ยวจมหายไป มานี่เร็ว”
เราก็ว่ายเข้าไปหาเค้า พอไปเกาะห่วงได้แล้วก็รู้สึกดีขึ้นเยอะ
แต่ปัญหามันไม่ได้จบแค่นั้นนะซิ …
เพราะว่าหลังจากที่มีห่วงแล้วเนี่ย ก็พยายามว่ายแล้วว่ายอีกอ่ะ
แต่ก็ไม่รู้สึกว่าจะขยับเท่าไรเพราะว่าว่ายเข้าไป คลื่นมันก็ซัดออกมาอีก
คลื่นแรงมากเพราะงั้นพวกเราก็ต้องเกาะห่วงไว้อย่างแน่นหนา
เพราะพวกเราหมดแรงโคตรๆแล้วอ่ะ เพื่อนเราคนนึงแบบว่าเกือบหลุดอ่ะ
แต่โชคดีที่พี่ใจดีคนนั้นคว้าแขนเพื่อนเราไว้ทันอ่ะ เลยดึงกลับมาได้

เราว่ายไปพักนึงรู้สึกว่าตัวเอง เหยียบโดนทรายก็พยายามเอาขาเจาะกับทรายใต้น้ำ
แล้วก็ตะกรุยเต็มที่เลยอ่ะ แต่พอคลื่นมันมามันก็พัดเราออกไปอีกแล้วอ่ะ….
สักพักพ่อของเพื่อนที่จมน้ำด้วยกันเค้าก็ว่ายตามมาเอาห่วงมาอีกอันเป็น 2 อัน
แล้วก็บอกให้แยกแยกกันเกาะ แบ่งเป็น 2 ห่วง ตอนกำลังจะแบ่งเนี่ยอยู่ดีๆ
คลื่นก็ซัดมาจนห่วงมันหมุนกลับ ส่วนเราเกาะห่วงอย่างแน่นหนา
พอคลื่นซัดห่วงกลับเราก็ไม่ยอมปล่อยไง เกาะไว้ตลอด

ทำให้เราไปอยู่ใต้น้ำอย่างสมบรูณ์ เพื่อนๆ แอบตกใจว่าหายไปไหน
แต่ตอนหลังก็โผล่ขึ้นมาได้ อยู่ใต้ห่วงเกือบตาย แล้วก็ทำให้เราไปอยู่ห่วงพ่อของเพื่อนแทน
หันไปอีกทีมีห่วงอันที่ 3 ซึ่งพี่ชายของเพื่อน(คนเดิม) มาช่วยอีกคนนึง
คราวนี้เค้าก็แยกๆกันไปซึ่งก็อยู่กันไม่ไกลมากอ่ะ ประมาณ 2-3 เมตร
ตอนนี้ก็เหลือเราก็พ่อของเพื่อน ก็พยายามว่ายต้านกับแรงคลื่น
แต่ก็ไม่ไหว แต่ก็พยายามสู้สุดๆ ว่ายไปสักพักรู้สึกว่านำคนอื่นอยู่อ่ะ (เหมือนว่ายน้ำแข่งกันเลย)
พ่อของเพื่อนก็ให้กำลังใจเต็มที่เลย บอกว่าจะถึงแล้วเหยียบทรายแล้ว
แต่เราไม่รู้สึกอย่างงั้นนะ แต่ก็พยายามวิดน้ำสุดชีวิต

จากที่ตอนแรกก็รู้สึกนะว่าใกล้ถึงแล้วอ่ะ
อยู่ดีๆ … คลื่นยักษ์มาจากไหนก็ไม่รู้ (อีกแล้วหรอเนี่ย)
มันพัดเอาเรากับพ่อของเพื่อนออกอีกแล้วครับท่าน

เหนื่อยมากอ่ะเหนื่อยสุดๆ หมดทั้งแรง หมดทั้งกำลังใจ
แต่พ่อของเพื่อนก็บอกว่าไม่เป็นไรนะ
ว่ายเข้า ถีบขาเข้าไว้
เราก็ทำเต็มที่ หน้าเราแอบเจื่อนๆ
หมดกำลังใจมาก
เหมือนต้องนับ 1ใหม่อีกหลายๆครั้ง

เห็นเพื่อนๆ ถึงฝั่งกันแล้ว
แต่เราเนี่ยโดนพัดออกอีกแล้ว
แต่ในที่สุดเราก็ถึงฝั่ง
หมดแรงสุดๆ เพื่อนๆ ผู้ชายคนอื่นและก็พี่ๆ เค้าก็มายืนรอ
แล้วก็หิ้วปีกเราคนละข้างอ่ะ

แม่เราก็ยืนรอเรา พอเค้าเห็นเราเค้าก็ร้องไห้ไปว่าเราไป
“บอกแล้วใช่ไหม ว่าไม่ให้ไปไกลๆ พูดแล้วไม่ฟัง”
พอเห็นแม่เราร้องไห้แค่นั้นแหละ
จากตอนแรกไม่มีแรงจะร้องไห้ ก็ร้องออกมาหมดเลยอ่ะ
น้ำมูก น้ำหู น้ำตา ไหลออกมาพร้อมๆกันอ่ะ
มันทั้งเสียใจที่ทำให้แม่เราร้องไห้
แล้วก็ทั้งดีใจที่รอดมาได้
จากตอนแรกที่คิดว่าโอกาสรอดแทบจะเป็น “ศูนย์”

ส่วนพี่ที่เค้าช่วยเราขึ้นมานั้น
พวกเราก็ตื่นเต้นและตกใจไปพร้อมกัน
เลยลืมที่จะขอบคุณและถามชื่อพี่เค้า
แต่เราเห็นว่าพี่เค้าอ้วกออกมาเป็นน้ำทะเลเลยแหละ
แต่เราจะไม่ลืมพี่เค้าไปชั่วชีวิตเลย …
เฮ้อ~~~ หลังจากขึ้นมาได้สักพัก
หันไปก็เจอไทยมุงและฝรั่งมุงแต่เราก็ไม่ค่อยสนใจ
แล้วเราก็ไปหาหมอ รักษาเสร็จ …
หมอก็บอกว่า มีตายทุกอาทิตย์อ่ะ
แต่ที่เกาะเค้าปิดข่าว หมอก็ไม่อยากให้เล่นนะ
แต่หมอทำอะไรไม่ได้เลยเพราะว่าหมอเป็นคนท้องถิ่น
พูดอะไรไปจะไม่เข้าหูคนท้องที่เปล่าๆ
หมอบอกว่าต้องให้คนที่ไปเที่ยวเนี่ยหละ
ช่วยหมอป่าวประกาศ
หมอก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเหมือนกัน
วันที่ 12 สิงหาคม ตอนช่วงเช้า ก็มีชาวเนเธอร์แลนด์อายุ 30 ปี
เสียชีวิตเพราะจมน้ำเหมือนกัน
ก่อนหน้าเราก็มีเด็กวัยรุ่นอีก 4 คน
เป็นเหมือนเราแต่มีคนนึงใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่
อาทิตย์ที่แล้วก็มีอีก 2 คน
ที่ต้องมาเสียชีวิตเพราะคลื่นที่นี่
มีทุกอาทิตย์จริงๆอ่ะ …

ไขสันหลังของแม่ไม่ผลิตเลือด

กันยายน 26, 2006

>>>>>>>ช่วยส่งต่อด่วนมาก
>>>>>>>.. อย่าเพิ่งลบเมล์เลยนะครับ ช่วยกัน forward หน่อยนะครับ
>>>>>>>พี่สาวผมมีอาการ ครรภ์เป็นพิษ
>>>>>>>หลังจากที่ตัดสินใจผ่าตัดเอาเด็กออกอย่าง
>>>>>>>เร่งด่วน ปรากฎว่าลูกแข็งแรง แต่ไขสันหลังของแม่ไม่ผลิตเลือด
>>>>>>>อยากจะขอบริจาค เลือดกรุ๊ป A ด่วนมากๆ
>>>>>>>ซึ่งคน 10 คนที่บริจากเลือด จะสามารถผลิตเลือดได้เพียง
>>>>>>>1 ถุง เท่านั้น
>>>>>>>ขอบคุณทุกๆคนที่สร้างโอกาสให้เด็กน้อยได้เห็นหน้าแม่
>>>>>>>บริจาคได้ที่ คลังเลือด ร.พ.จุฬาฯ
>>>>>>>เพื่อนางสาวจรรยา ตันคงจำรัสกุลร
>>>>>>>มีข้อสงสัยโทร ถามได้ที่ (01)822-8111หรือ (01) 831-3990
>>>>>>>ช่วย forward ต่อไปให้ผู้ที่ท่านคิดว่าสามารถบริจาคได้ด้วย
>>>>>>>ขอบคุณมากๆครับ

Support clean energy!

กันยายน 8, 2006

Recieved : Thursday, September 7, 2006 4:55 AM
Subject : Take action to support clean energy!

7 กันยายน 2549 – อาสาสมัครกรีนพีซกว่า 20 คนได้ทำกิจกรรมขัดขวาง
การขนถ่ายถ่านหินจากออสเตรเลียเข้าประเทศไทยที่โรงไฟฟ้าถ่านหิน
บีแอลซีพี (BLCP) จ.ระยอง เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยก๊าซ
เรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน

กรีนพีซ จึงขอเชิญท่านสมาชิกร่วมรณรงค์ไปพร้อมกับอาสาสมัครของเรา
โดยการลงนามเรียกร้องไปยัง คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
เพื่อตอบรับนโยบายพลังงานสะอาดให้มีสัดส่วนอย่างน้อยร้อยละ 10
ภายในปี 2553 (ปัจจุบันมีน้อยกว่าร้อยละ 1)

ร่วมลงนาม กรุณาคลิก
http://202.44.55.51/solargen_org/

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาคลิก
http://www.greenpeace.org/seasia/th/news/607485

ขอแสดงความนับถือ

ฝ่ายบริการสมาชิก
0-2271-4832
greenpeace@loxinfo.co.th

7 September, 2006 – 20 Greenpeace activists took action by shutting
down the port of the controversial BLCP coal power plant to prevent
the unloading of Australian coal into Thailand.

As the impacts of climate change continue to increase in severity and frequency, consequentially
resulting in extreme weather events
that, threatens to empty the coffers of economies in Southeast
Asia.

We would like you to join this action with our activists by signing the petition.

Please click here :
http://202.44.55.51/solargen_org/

For more information :
http://www.greenpeace.org/seasia/en/news/coal-climate-change-clean

Sincerely yours,

Supporter Services Department
662 271 4832
greenpeace@loxinfo.co.th

โครงการแพทย์อาสาสมัครศัลยแพทย์นานาชาติ

กันยายน 8, 2006

Recieved: Thursday, September 7, 2006 10:47 AM
Subject : Fwd: FW: Fwd: Doctor Volunteer -โครงการแพทย์อาสาสมัครศัลยแพทย์นานาชาติ

โครงการแพทย์อาสาสมัครศัลยแพทย์นานาชาติจาก สหรัฐอเมริกา จะมาเมืองไทย
เพื่อช่วยผ่าตัดคน
พิการถวายเป็นพระราชกุศล เเด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เเละสมเด็จพระราชินีนาถ
โครงการแพทย์พยาบาลอาสาสมัครนานาชาติ เเละรพ.ภูมิพล ได้ร่วมมือกัน
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ
รักษาพยาบาลผู้ป่วยจากท้องถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ และสี่จังหวัดภาคใต้ จำนวน
350-400 คน
ระหว่างวันที่ 11-20 มกราคม 2550 โดยจะใช้ รพ.ภูมิพล เป็นศูนย์การรักษาฟรี
โดยไม่ต้องเสียค่าใช้
จ่ายใดๆทั้งสิ้น
สำหรับแพทย์ที่จะมาทำการรักษาในครั้งนี้เป็นกลุ่มศัลยแพทย์พยาบาลไทยนานาชาติ
ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ
สาขาต่างๆ 50 ท่าน จากมหาวิทยาลัยแพทย์ต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา อาทิ มหาวิทยาลัย
โคลัมเบีย,มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนียฯลฯ ได้ร่วมกันออกทุนทรัพย์ส่วนตัวมาช่วย
เพื่อผ่าตัดรักษาผู้ป่วย
พิการ โดยมีรายละเอียด ของผู้ที่สามารถขอเข้ารับการรักษา ได้ดังนี้
1.ผู้ป่วยมีโรคทางศัลยกรรม ต่อไปนี้
1.1 ปาก-จมูกแหว่ง (CLEFT LIP) อายุตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป
1.2 เพดานทะลุ (CLEFT PALATE)อายุตั้งเเต่ 4 เดือน – 20 ปี
1.3 ใบหูพิการ (EXTERNAL EAR DEFORMITY)อายุตั้งเเต่ 4 เดือนขึ้นไป
1.4 ความพิการแต่กำเนิดอื่นๆ(ALL OTHER CONGENITAL ANOMALIES)
1.5 แผลเป็นจากไฟไหม้ นำร้อนลวก (BURN SCAR CONTRACTION)ของ มือ,เท้า, คอ
เเละ
อื่นๆ
1.6 ไส้เลื่อนที่ขาหนีบ เเละหน้าท้อง (INQUINAL & UMBILICAL HERNIA)
2. ผู้ป่วยมีโรคทางตา ต่อไปนี้
2.1 ต้อกระจก
2.2 ตาเข
2.3 หนังตาตก
2.4 ความพิการทางตาที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด

สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับการผ่าตัดในครั้งนี้ ขอให้ติดต่อมาที่

มริสสา วิริโยทัยาร

โทร 01-6222706

ตั้งเเต่บัดนี้เป็นต้นไป (ขอให้รีบส่งชื่อมาโดยเร็วที่สุด
เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ จะต้องใช้เวลาใน
การเตรียมการล่วงหน้าด้วยค่ะ)

ซึ่งถ้าเป็นไปได้ อยากให้ส่งชื่อมาภายในเดือน ตุลาคม นี้ค่ะุด

ขอรบกวนทุกๆ ท่าน ช่วย Forward email นี้ ให้มากที่สุด
เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม โดย
เฉพาะประชาชนทางสี่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางแพทย์กลุ่มนี้
ต้องการช่วยเหลือมากครับ

แจกรถให้คนพิการ

กันยายน 8, 2006

Recieved: Thursday, September 7, 2006 10:49 AM

Subject :  Fwd: FW: Fwd: FW: FWD: ช่วยกระจายข่าวแจกรถให้คนพิการด้วย

 

ช่วยกระจายข่าวแจกรถให้คนพิการด้วยแจกฟรี  รถWheel  Chairและรถสามล้อโยกสำหรับคนพิการ

  สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย (สพท.) ร่วมกับสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหว (ส.พ.ค.)

ขอเชิ­ ผู้พิการทุกท่านที่มีความประสงค์ ต้องการรถวีลแชร์และรถสามล้อโยกฟรี  ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

ทั้งสิ้นเพียงส่งเอกสาร

1.สำเนาทะเบียนบ้าน  พร้อมเซ็นรับรองสำเนา

2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน  พร้อมเซ็นรับรองสำเนา

3.สำเนาสมุดประจำตัวคนพิการ  พร้อมเซ็นรับรองสำเนา

4.รูปถ่ายเต็มตัวเห็นสภาพความพิการชัดเจน1รูป

5.ให้ระบุที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก  พร้อมเบอร์โทรศัพท์ (ถ้ามี) มาที่สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย

73/7-8ซอยติวานนท์8ถนนติวานนท์  ตำบลตลาดขวัม อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี11000โทรศัพท์

0-2951-0445,0-2584-3993 , 0-2951-0447โทรสาร0-2951-0567หรือที่สมาคมคนพิการทาง

การเคลื่อนไหว802/410หมู่12หมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค  ซอย10/4ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา

จังหวัดปทุมธานี12130มือถือ0-1735-2316,  0-1372-4201โทรสาร0-2990-0331

หมายเหตุ  รถวีลแชร์และรถสามล้อโยกมีเพียงพอสำหรับทุกท่านที่ติดต่อเข้ามา